“ตาคลี เจเนซิส” เป็นภาพยนตร์ไซไฟแนวดราม่าและครอบครัวจากประเทศไทย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ “สเตลล่า” หญิงสาวที่เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อตามหาพ่อซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อ 30 ปีก่อน ระหว่างที่เธอดูแลแม่ที่กำลังป่วย เธอค้นพบเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเก่าและพบร่องรอยของอุปกรณ์ลึกลับชื่อว่า “ตาคลี เจเนซิส” ซึ่งเป็นเครื่องเทเลพอร์ตที่ถูกทิ้งไว้โดยกองทัพสหรัฐฯ หลังสงครามเวียดนาม เครื่องนี้เปิดประตูสู่การเดินทางข้ามเวลา ทำให้สเตลล่าและลูกสาวของเธอได้ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เช่น การสังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519 และยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านเชียง พวกเธอต้องแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือพ่อ และเปลี่ยนแปลงชะตากรรมที่ผูกพันกันในหลากหลายมิติของเวลา
แรงบันดาลใจและการสร้างสรรค์
ผู้กำกับชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล หรือ “มะเดี่ยว” ได้แรงบันดาลใจจากการตั้งคำถามว่า ถ้าเหตุการณ์สำคัญในอดีตไทยสามารถเปลี่ยนได้ เราจะกลายเป็นประเทศที่แตกต่างจากปัจจุบันแค่ไหน โดยเขาผสมผสานความรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง และวิทยาศาสตร์เข้ากับเรื่องราวครอบครัว เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่ทั้งสะท้อนอารมณ์และจินตนาการ มะเดี่ยวต้องการเล่าเรื่องผลกระทบของสงครามเย็นในประเทศไทย โดยเฉพาะการมีอยู่ของฐานทัพอเมริกันในจังหวัดนครสวรรค์ ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีลับและความลับที่ถูกเก็บงำมานานหลายสิบปี
การถ่ายทำและเทคนิคพิเศษ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องของไทยที่ออกแบบเพื่อฉายในระบบ IMAX ตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายทำ โดยใช้สัดส่วนภาพและเทคนิคที่เหมาะสมกับจอขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความอลังการให้กับฉากเดินทางข้ามเวลาและเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เทคนิค CGI ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อสร้างฉากย้อนยุค การเปลี่ยนแปลงมิติของเวลา และรายละเอียดของเครื่อง “ตาคลี เจเนซิส” ที่ทั้งลึกลับและทันสมัยในแบบย้อนยุค งานออกแบบฉากและสีภาพได้รับแรงบันดาลใจจากภาพถ่ายเก่าและข้อมูลทางประวัติศาสตร์จริง เพื่อให้คนดูรู้สึกเหมือนได้กลับไปยังยุคนั้นจริง ๆ
การตอบรับและผลกระทบ
“ตาคลี เจเนซิส” ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากผู้ชมและนักวิจารณ์ โดยหลายคนยกย่องในความกล้าหาญของผู้กำกับที่สร้างหนังไทยในแนวไซไฟที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์จริง ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวงการหนังไทย เพราะนี่คือภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ในประเทศ อีกทั้งยังได้รับการซื้อสิทธิ์ฉายในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของหนังไทยในการแข่งขันในเวทีโลก และเปิดโอกาสให้ภาพยนตร์แนวใหม่ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้นในอุตสาหกรรมไทยมากยิ่งขึ้น HENG2525
สรุป
“ตาคลี เจเนซิส” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ไซไฟทั่วไป แต่เป็นงานศิลปะที่รวมเอาจินตนาการ วิทยาศาสตร์ และความทรงจำของประวัติศาสตร์ไทยเข้าไว้ด้วยกันอย่างแยบยล มันตั้งคำถามกับผู้ชมถึงอดีตที่เรามองข้าม ความสัมพันธ์ในครอบครัว และทางเลือกที่อาจเปลี่ยนอนาคตได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่โลกของการเดินทางข้ามเวลา แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคนไทยในการมองย้อนสู่อดีตและก้าวไปสู่อนาคตด้วยจิตสำนึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในเรื่องของรากเหง้าของตนเอง
